
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2561 ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์รายงานว่า นางวนิดา แพนุ่น (ติ๋ม) อายุ 60 ปี ชาวบ้านคำแคนใต้ ม.1 ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ซึ่งผู้ตายได้เช่าบ้านอยู่ชุมชนทางรถไฟขอนแก่น เปิดร้ายขายของชำ ตื่นเช้ามาเปิดร้านตอนตี 4 คนร้ายก็บุกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตคาที่เพื่อชิงทรัพย์สิน ต่อมาเวลา 15.00 น.วันที่ 18 ธันวาคม 2561 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบรายละเอียดในจุดเกิดเหตุ ซึ่งพบว่าเป็นร้านขายของชำ อยู่ริมถนนเทพารักษ์ ในพื้นที่ชุมชนเทพารักษ์ 1และ 2 เขตเทศบาลนครขอนแก่น ร้านปิดเงียบ มีเพียงการปักอยู่ที่พื้นดินหน้าร้าน 1 ดอก

ขณะที่ชาวชุมชนได้พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดที่ร่างของยายติ๋ม นอนเสียชีวิต ซึ่งอยู่ข้างทาง ภายในซอยที่จะเข้าไปในชุมชนเทพารักษ์ แหล่งข่าว(ขอปกปิดชื่อ นามสกุล เจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์อยู่ปากซอยจุดที่พบศพ) เปิดเผยว่า ยายติ๋มหรือ นางวนิดา แพนุ่น ค้าขายและอาศัยอยู่ในชุมชนมากว่า 30 ปี เพียงลำพัง เพราะลูกชายคนโตทำงานอยู่ต่างพื้นที่ อีกคนกำลังศึกษาอยู่ระดับมหาวิทยาลัย ยายติ๋มจะเปิดร้านขายของชำตั้งแต่เวลา 05.00 น.ถึงเวลา 20.00 น.ของทุกวัน วันเกิดเหตุช่วงเช้ามืดได้ยินเสียงยายติ๋มทะเลาะกับวัยรุ่นชื่อเบนซ์ ซึ่งเป็นชาวชุมชนเทพารักษ์ มีบ้านอยู่ห่างจากจุดที่พบศพยายติ๋มประมาณ 20 เมตร ประมาน 30 นาทีก็มีเสียงคล้ายคนถูกทำร้ายภายในซอย เมื่อเสียงเงียบจึงออกจากบ้านมาดูพบร่างยายติ๋มนอนเสียชีวิตอยู่ข้างทาง ในสภาพใบหน้าบวมปูด ศรีษะแตกเลือดอาบร่าง จึงขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ชีพและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบ และสังเกตว่า สร้อยคอทองคำ พร้อมสร้อยข้อมือของยายติ๋มหายไป
ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถามรายละเอียดที่ยายติ๋มถูกฆ่าตายจาก พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผกก.สภเมืองขอนแก่น ทราบว่า เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 17 ธันวาคม 2561 พ.ต.ท.เดชขจร บำรุงนา รองผกก.สอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น รับแจ้งจากศูนย์วิทยุแก่นนครว่า มีคนถูกทำร้ายร่างกายภายในชุมชนเทพารักษ์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจที่เกิดเหตุ ทราบว่า คนที่ถูกทำร้ายร่างกายนั้น เจ้าหน้าที่กู้ชีพ นำส่งที่รพ.ศูนย์ขอนแก่นก่อนที่ตำรวจจะไปถึงและเสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล จากการสืบสวนสอบสวนพยานที่เห็นเหตุเหตุการณ์ ทราบว่า ผู้ที่ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เป็นผู้สูงอายุ ขายของชำเพียงลำพัง ภายในชุมชนที่เกิดเหตุ ทราบชื่อว่านางวนิดา แพนุ่น อายุ 62 ปี

ส่วนมูลเหตุของการเกิดเหตุในครั้งนี้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อว่า(นายธนพล งาดี ขอปกปิดชื่อนามสกุล) นายเบนซ์ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ไปต่อว่าผู้ตาย ขณะผู้ตายนำขยะไปทิ้งที่ถังขยะที่ตั้งอยู่ริมถนน ปากซอยทางเข้าไปในชุมชน จนมีการถกเถียงกัน ผู้ตายต้องการเคลียร์กับคนในครอบครัวของนายเบนซ์ จึงเดินเข้าไปที่บ้านนายเบนซ์ ขณะที่ผู้ตายกำลังอธิบายทำความเข้าใจกับมารดาและยายของนายเบนซ์อยู่นั้น นายเบนซ์ได้เข้าทำร้ายผู้ตายอย่างรุนแรง แม่และยายห้ามก็ถูกนายเบนซ์ทำร้ายอีก นายเบนซ์ทำร้ายยายติ๋มอย่างไม่ยั้งมือ จนแน่นิ่งแล้วอุ้มร่างยายติ๋มมาทิ้งที่ปากซอย จากนั้นก็หายตัวออกจากชุมชนไป

กระทั่งมีชาวบ้านมาพบร่างยายติ๋มและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวคนก่อเหตุแล้วกำลังรวบรวมพยาน หลักฐานขอศาลออกหมายจับ ทั้งนี้นายเบนซ์ยังมีหมายจับในคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่น แต่ยังไม่ถูกจับและอยู่ระหว่างการกลบหนีก็มาก่อเหตุ ขอยืนยันว่าในคดีของยายติ๋ม เจ้าหน้าทาตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐานขอหมายจับ จับกุมนายเบนซ์มาดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นตรถึงแก่ความตาย
ทั้งนี้หากการสืบสวนสอบสวนและจับกุมตัวนายเบนซ์ได้แล้วพบว่ามีการใช้อาวุธ ทำร้าย ก็จะแจ้งข้อหาอื่นเพิ่ม ส่วนทรัพย์สินในตัวผู้ตายนั้น จะต้องมีการตรวจสอบว่าหายไปจริงหรือไม่ และหากหายไปในช่วงเกิดเหตุก็ต้องตรวจสอบว่สาใครเอาไป ซึ่งจะต้องจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน ในขณะเดียวกัน พลเมืองดีได้มอบคลิปจากกล้องวงจรปิด ขณะที่นายเบนซ์ ต่อยยายติ๋มอยู่ข้างถนน

ในช่วงเวลา 06.42 เช้ามืดวันที่ 17 ธันวาคม พร้อมทั้งมีการชี้หน้าและต่อว่าด้วยอาการเกรี้ยวกราด ภายในคลิปนอกจากนายเบนซ์ยังมีชายวัยรุ่นอีก 2 คนและหญิงสาวอีก 1คนร่วมอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ไม่นานทั้งหมดก็เดินตามกันเข้าไปในซอย จากนั้นหญิงสาวก็ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากซอยไปด้วยความเร็ว และชายวัยรุ่นก็เดินมาจูงเอารถจักรยานยนต์ของนายเบนซ์ที่จอดอยู่ข้างทางเข้าไปในซอย และในเวลา 07.47 น.ก็มีรถกู้ชีพมารับร่างยายติ๋มออกจากจุดที่เกิดเหตุ ท่ามกลางความสนใจของชาวชุมชนดังกล่าว

เรียบเรียงโดย นัสฐริกา ทีมข่าวสยามนิวส์ จ.ขอนแก่น
Không có nhận xét nào:
Đăng nhận xét